1. คำจำกัดความของการแข่งขันหุ่นยนต์ต่อสู้
1.1 คำจำกัดความ
การแข่งขันระหว่างหุ่นยนต์สองตัวในรูปแบบตัวต่อตัว โดยยึดหลักพื้นฐานของการชกมวย หุ่นยนต์ถูกควบคุมด้วยรีโมทคอนโทรล เช่นเดียวกับการชกมวย หุ่นยนต์จะมีเวลา 3 นาทีเต็มต่อรอบ โดยในระหว่างนั้นหุ่นยนต์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจถูกทำให้ออกจากการแข่งขัน (knockout) หรือให้ผู้ตัดสิน 3 คนเป็นผู้ตัดสินผลการแข่งขันได้ ผู้เข้าแข่งขันสามารถใช้อาวุธได้แทบทุกประเภท ยกเว้นน้ำ เปลวไฟ และอุปกรณ์ช็อตไฟฟ้า
2.Contestant
2.1 ทีมหุ่นยนต์ประกอบด้วยสมากชิกไม่เกิน 2 คน (ผู้เข้าแข่งขันมีอายุ 14 ปีขึ้นไป)
2.2 ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนสามารถลงแข่งขันได้ 1 ทีมต่อ 1 รุ่นการแข่งขัน
2.3 ทีมจะมีอาจารย์ที่ปรึกษา 1 คน (หรืออาจจะไม่มีก็ได้)
3. ข้อกำหนดสำหรับหุ่นยนต์
3.1 ข้อกำหนดทั่วไปของหุ่นยนต์
• น้ำหนัก: 500 กรัม (1 ปอนด์)
• ขนาด: ไม่จำกัด (ต้องสามารถผ่านช่องขนาด 80 ซม. x 70 ซม. ได้) สามารถขยายขนาได้ แต่ไม่สามารถแยกร่างได้
3.2 ข้อกำหนดในการสร้างหุ่นยนต์
A. ผู้เข้าร่วมทุกคนสร้างและใช้งานหุ่นยนต์ด้วยความเสี่ยงของตนเอง การแข่งขันหุ่นยนต์ต่อสู้นั้นมีความอันตรายโดยธรรมชาติ กฎข้อบังคับไม่สามารถครอบคลุมถึงอันตรายทุกประเภทได้ โปรดระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อตัวเองหรือผู้อื่นระหว่างการสร้าง การทดสอบ และการแข่งขัน
B. หากคุณมีการออกแบบหุ่นยนต์หรืออาวุธที่ไม่อยู่ในประเภทที่ระบุไว้ในกฎเหล่านี้ หรือมีความไม่ชัดเจนหรืออยู่ในขอบเขตที่กำกวม โปรดติดต่อผู้จัดการแข่งขัน เราส่งเสริมการสร้างสรรค์อย่างปลอดภัย แต่หากเจ้าหน้าที่พบว่าคุณใช้ช่องโหว่ของกฎ หุ่นยนต์ของคุณอาจถูกตัดสิทธิ์ก่อนการแข่งขัน
C. การแข่งขันจะมีการตรวจสอบความปลอดภัย การตรวจสอบเหล่านี้มีอำนาจในการอนุญาตหรือปฏิเสธการเข้าร่วมงาน ผู้สร้างต้องเปิดเผยหลักการทำงานและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นให้แก่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทราบ
D. กฎความปลอดภัยที่สำคัญ: การไม่ปฏิบัติตามกฎต่อไปนี้อาจนำไปสู่การถูกตัดสิทธิ์หรืออันตรายต่อร่างกาย
a. ห้ามเปิดใช้งานตัวส่งสัญญาณควบคุมที่บริเวณงานโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างชัดเจนจากผู้ตัดสิน
b. การเปิดใช้งานและปิดการทำงานของหุ่นยนต์ต้องทำอย่างเหมาะสม หุ่นยนต์ควรเปิดใช้งานเฉพาะในพื้นที่แข่งขัน พื้นที่ทดสอบ หรือได้รับความยินยอมจากผู้ตัดสินเท่านั้น
c. หุ่นยนต์ทุกตัวต้องสามารถปิดการทำงานทั้งหมด รวมถึงการเคลื่อนที่และอาวุธ ภายในเวลาไม่เกิน 60 วินาทีโดยการตัดการเชื่อมต่อแบบแมนนวล (บังคับให้มี Emergency Switch)
d. หุ่นยนต์ที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ทดสอบอย่างเป็นทางการจะต้องยกขึ้นหรือถูกล็อกไว้เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเปิดเครื่อง หุ่นยนต์ที่ไม่สามารถควบคุมได้มีความอันตรายอย่างมาก
e. ล็อกอุปกรณ์เคลื่อนที่: อาวุธที่สามารถสร้างความเสียหายหรืออันตรายได้ต้องมีอุปกรณ์ล็อกที่มองเห็นได้ชัดเจนติดตั้งไว้ตลอดเวลาเมื่ออยู่นอกพื้นที่แข่งขัน อุปกรณ์ล็อกต้องทาสีส้มสะท้อนแสงหรือสีที่มองเห็นได้ชัดเจน และต้องสามารถหยุดหรือป้องกันการเคลื่อนไหวของอาวุธที่อันตรายได้
f. หมุดล็อกอาวุธ: หมุดล็อกอาวุธต้องติดตั้งอยู่เมื่อหุ่นยนต์กำลังเปิดใช้งานระหว่างกระบวนการเริ่มต้นการจ่ายไฟ
g. ผู้สร้างทุกคนต้องปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยขั้นพื้นฐานเมื่อทำงานกับหุ่นยนต์ในพื้นที่ทดสอบ ควรระมัดระวังและสังเกตผู้ที่แยู่พื้นที่ข้างเคียงทดสอบและผู้ที่เดินผ่านไปมา
3.3. การเคลื่อนที่
หุ่นยนต์ทุกตัวต้องมีการเคลื่อนที่ที่สามารถสังเกตได้ง่ายและควบคุมได้เพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน ประเภทการเคลื่อนที่แบ่งออกเป็นดังนี้:
A. แบบล้อหมุน (Rolling): ใช้ล้อ โซ่ หรือแม้กระทั่งตัวหุ่นยนต์เองในการเคลื่อนที่
B. แบบขา (With legs): หุ่นยนต์ประเภทนี้มีขาที่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ โดยขาแต่ละข้างสามารถเคลื่อนที่ในแนวนอนหรือแนวตั้งได้โดยไม่ส่งผลต่อการเคลื่อนที่ของขาอื่น ๆ
C. แบบไจโรสโคป (Gyroscopic): หุ่นยนต์ที่ใช้ผลของไจโรสโคปในการเคลื่อนที่
D. แบบโฮเวอร์คราฟต์ (Hovercrafts): การกระโดดได้รับอนุญาต แต่ไม่อนุญาตให้หุ่นยนต์บินด้วยวิธีการใด ๆ
3.4. ข้อกำหนดในการควบคุมหุ่นยนต์
A. หุ่นยนต์ต้องควบคุมผ่านระบบวิทยุ (radio controlled) หรือใช้ระบบที่ได้รับการอนุมัติตามที่ระบุไว้ด้านล่าง โดยความถี่ที่อนุญาตคือ 2.4GHz
B. ไม่อนุญาตให้ใช้การควบคุมแบบอื่นที่ไม่ใช่แบบไร้สาย
C. ข้อจำกัดเกี่ยวกับระบบวิทยุ:
• a. สำหรับหุ่นยนต์ที่มีอาวุธเคลื่อนไหว ระบบวิทยุต้องสามารถหยุดการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์และอาวุธได้
• b. หุ่นยนต์ต้องใช้ระบบวิทยุที่เข้ารหัสแบบดิจิทัล โดยตัวส่งและตัวรับต้องเชื่อมโยงกัน หมายความว่าเครื่องส่งสัญญาณที่ใช้ความถี่เดียวกันไม่สามารถเชื่อมต่อกับตัวรับอื่นได้ และเครื่องส่งสัญญาณของคุณไม่สามารถส่งสัญญาณไปยังตัวรับของผู้อื่นได้
• c. ไม่อนุญาตให้ใช้ระบบวิทยุที่ทำขึ้นเอง หรือระบบควบคุมที่ไม่ได้ระบุไว้ในกฎ
• d. ไม่จำเป็นต้องใช้สวิตช์แหล่งพลังงานแยกต่างหากสำหรับตัวรับวิทยุ แต่ขอแนะนำให้มี
3.5. ความเป็นอัตโนมัติ
หุ่นยนต์ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานใดๆ โดยอัตโนมัติ
3.6. แบตเตอรี่และแหล่งจ่ายไฟ
A. อนุญาตเฉพาะแบตเตอรี่ที่ไม่หกหรือพ่นน้ำยาเคมีออกมาหากเกิดความเสียหายหรือพลิกคว่ำ แบตเตอรี่ที่อนุญาต ได้แก่ NiCad, NiMH, เซลล์แห้ง, AGM, Li-Ion หรือ LiPo
B. แหล่งพลังงานไฟฟ้าที่ใช้กับอาวุธต้องสามารถตัดการเชื่อมต่อด้วยมือได้ (ผ่านสวิตช์หรือการเชื่อมต่อที่ถอดออกได้) การใช้สวิตช์เชิงกลถือเป็นข้อบังคับ
C. ควรป้องกันขั้วแบตเตอรี่จากการลัดวงจรเพื่อป้องกันไฟไหม้แบตเตอรี่
D. หุ่นยนต์ทุกตัวต้องมีไฟแสดงสถานะที่มองเห็นได้ชัดเจนซึ่งระบุว่าแบตเตอรี่หลักเชื่อมต่ออยู่
3.7. ระบบนิวเมติกส์
A. ตัวอย่างของระบบนิวเมติกส์:
• a. ระบบ CO2
• b. ระบบลมอัด
B. หากหุ่นยนต์ของคุณมีระบบนิวเมติกส์ โปรดติดต่อผู้ตัดสินเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติก่อนเริ่มการแข่งขัน
C. ระบบนิวเมติกส์ต้องใช้เฉพาะก๊าซที่ไม่ติดไฟและไม่เกิดปฏิกิริยา เช่น CO2, ไนโตรเจน และลมอัด
D. ต้องมีวิธีที่ปลอดภัยในการเติมก๊าซ
E. ส่วนประกอบทั้งหมดต้องติดตั้งอย่างมั่นคงในตัวหุ่นยนต์ โดยให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับวาล์วและชิ้นส่วนประกอบเพื่อป้องกันความเสียหาย
3.8. ระบบไฮดรอลิกส์
หากหุ่นยนต์ของคุณมีระบบไฮดรอลิกส์ โปรดติดต่อผู้ตัดสินเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติก่อนเริ่มการแข่งขัน
3.9. เครื่องยนต์สันดาปภายในและเชื้อเพลิงเหลว
ไม่อนุญาตให้ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในในการแข่งขันนี้
3.10. สปริงและล้อเหวี่ยง (คานหมุน, จานหมุน ฯลฯ)
A. ล้อเหวี่ยงหรืออุปกรณ์จัดเก็บพลังงานจลน์แบบใด ๆ ห้ามเปิดใช้งานนอกพื้นที่แข่งขัน
B. สปริง ล้อเหวี่ยง และอุปกรณ์จัดเก็บพลังงานจลน์ต้องกลับสู่ตำแหน่งที่ปลอดภัยภายในเวลาไม่เกิน 60 วินาที เมื่อสูญเสียการควบคุมวิทยุหรือแหล่งจ่ายไฟ
2.11. อาวุธและวัสดุที่ห้ามใช้
ห้ามใช้อาวุธและวัสดุประเภทต่อไปนี้โดยเด็ดขาด:
A. อาวุธที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความเสียหายที่มองไม่เห็นแก่หุ่นยนต์ฝ่ายตรงข้าม เช่น:
• a. อาวุธไฟฟ้า
• b. การรบกวนสัญญาณ RF
• c. สนามแม่เหล็กไฟฟ้าถาวรหรือแม่เหล็กไฟฟ้าที่รบกวนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของหุ่นยนต์ฝ่ายตรงข้าม
• d. อาวุธหรืออุปกรณ์ป้องกันที่หยุดการต่อสู้ของหุ่นยนต์ทั้งหมด เช่น ตาข่าย, เทป, เชือก
B. อาวุธที่ทำให้เกิดความเสียหายหรือเลอะพื้นที่แข่งขันจนต้องซ่อมแซม เช่น:
• a. อาวุธของเหลว หรือหุ่นยนต์ที่มีของเหลวซึ่งอาจหกเมื่อเสียหาย
• b. โฟมและก๊าซเหลว
• c. ผง, ทราย, ลูกเหล็ก และวัตถุคล้ายกัน
• d. กระสุนปืน
C. อาวุธที่ใช้ความร้อน, เปลวไฟ, หรือการระเบิด เช่น:
• a. วัตถุระเบิดหรือของแข็งที่ติดไฟ เช่น กระสุน, ดินปืน, พลุ
D. อาวุธที่ปล่อยแสงหรือควันซึ่งรบกวนการมองเห็นของผู้เข้าร่วม, กรรมการ, หรือผู้ชม เช่น:
• a. อาวุธควัน
• b. แสงเลเซอร์หรือแสงไฟที่ทำให้คู่แข่งมองไม่เห็น
E. ห้ามใช้วัสดุอันตรายที่อาจสัมผัสกับมนุษย์บนตัวหุ่นยนต์
4. คุณลักษณะของสนามต่อสู้
4.1 ข้อกำหนดของพื้นที่สนามต่อสู้
A. ขนาดของสนาม: 200 ซม. x 200 ซม. โดยพื้นสนามอยู่สูงประมาณ 100 ซม. จากพื้นดิน และความสูงรวมของสนามคือ 100 ซม.
B. ผนังด้านในสนามทำจากโพลีคาร์บอเนตแบบสองชั้นหนา 8 มม.
C. พื้นสนามทำจากไม้หนา 3 ซม.
D. หลังคาสนามทำจากโพลีคาร์บอเนตหนา 8 มม.
E. โครงสร้างสนามทำจากอะลูมิเนียมโปรไฟล์ขนาด 40×40 มม. และ 40×80 มม.
F. แผ่นเหล็กหนา 5 มม. ใช้เป็นชั้นป้องกันติดกับผนังสนาม โดยไม่มีช่องว่างระหว่างผนังสนามกับแผ่นเหล็กป้องกัน

5. รูปแบบการแข่งขัน
สำคัญ!!! ผู้ควบคุม 1 ทีม สามารถควบคุมหุ่นยนต์ได้สูงสุด 1 ตัวเท่านั้น!!!
A. ระยะเวลาการแข่งขัน: การต่อสู้แต่ละครั้งใช้เวลา 3 นาที
B. การสิ้นสุดของแมตช์: แมตช์จะจบลงเมื่อหุ่นยนต์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกตัดสินว่าแพ้แบบ KO หรือเมื่อครบ 3 นาที ซึ่งกรรมการจะตัดสินผู้ชนะ
C. ความถี่ของการต่อสู้: จะมีเวลาพักอย่างน้อย 20 นาทีระหว่างแมตช์สำหรับหุ่นยนต์ตัวเดียวกัน อย่างไรก็ตาม แนะนำให้มีแบตเตอรีสำรองเพื่อให้สามารถเร่งความถี่ของการแข่งขันได้หากไม่ต้องซ่อมหุ่นยนต์
D. การแยกหุ่นยนต์: การต่อสู้จะหยุดชั่วคราวหากหุ่นยนต์ทั้งสองเกี่ยวกันนานกว่า 10 วินาที เพื่อแยกหุ่นยนต์ออกจากกัน
E. การจับหรือยก: หุ่นยนต์สามารถจับหรือยกได้ แต่ต้องไม่เกิน 10 วินาที หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของกรรมการให้ปล่อยหรือหยุดยก (ในกรณีที่หุ่นยนต์ไม่ได้เกี่ยวกัน) หุ่นยนต์ที่ทำการจับหรือยกจะถูกตัดสินว่าแพ้
F. การถอนตัว: ผู้ควบคุมสามารถถอนตัวกลางการแข่งขันได้ โดยกดปุ่มแสดงการถอนตัว การแข่งขันจะหยุดทันที และหุ่นยนต์ฝ่ายตรงข้ามจะชนะโดยอัตโนมัติ
G. การแพ้แบบ KO: หากหุ่นยนต์หยุดเคลื่อนไหวในลักษณะที่ควบคุมได้ กรรมการจะเริ่มนับถอยหลัง 10 วินาที หากหุ่นยนต์ไม่สามารถแสดงการเคลื่อนที่เชิงเส้นในช่วงเวลานี้ได้ จะถูกตัดสินว่าแพ้แบบ KO
H. หากหุ่นยนต์แสดงการเคลื่อนที่เชิงเส้นที่ควบคุมได้ในระหว่างการนับถอยหลัง หรือหากฝ่ายตรงข้ามโจมตี การนับถอยหลังจะหยุดและการแข่งขันจะดำเนินต่อไป หุ่นยนต์ที่ “หยุด” จะไม่ถูกนับถอยหลังหากฝ่ายตรงข้ามยังโจมตี
I. หุ่นยนต์ที่ระบบการเคลื่อนที่ด้านใดด้านหนึ่งหยุดทำงาน แต่ยังแสดงการเคลื่อนที่เชิงเส้นที่ควบคุมได้ จะไม่ถูกนับถอยหลัง
J. กรณี KO พร้อมกัน: หุ่นยนต์จะถูกนำกลับไปยังตำแหน่งเริ่มต้นและ:
• a. หากทั้งสองแสดงการเคลื่อนที่เชิงเส้นได้ การแข่งขันจะดำเนินต่อ
• b. หากมีเพียงหนึ่งตัวที่แสดงการเคลื่อนที่เชิงเส้นได้ ตัวนั้นจะชนะ
• c. หากทั้งสองไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ กรรมการจะตัดสินผู้ชนะ
• d. หากแบตเตอรี่ของหุ่นยนต์ตัวใดตัวหนึ่งเปิดเผยออกมา กรรมการอาจตัดสินให้แพ้แบบ KO ทางเทคนิคเพื่อความปลอดภัย
K. ประเภทของการคัดออก: ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้เข้าร่วมในวันงาน ผู้จัดงานจะกำหนดประเภทของการแข่งขัน ซึ่งได้แก่:
• a. แบบลีก: หุ่นยนต์แต่ละตัวจะต่อสู้กับหุ่นยนต์ทุกตัว ผู้ที่ชนะมากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ หากเสมอกัน ผู้ที่ชนะในการต่อสู้ระหว่างผู้เสมอจะเป็นผู้ชนะ
• b. แบบพีระมิด: การต่อสู้เป็นแบบตัวต่อตัว ผู้ชนะเข้าสู่รอบต่อไป ส่วนผู้แพ้จะถูกคัดออกทันที
L. ทุกทีมมีหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติตามกำหนดการแข่งขันที่แสดงในเว็บไซต์และห้องทีม กรุณาอย่ามาสาย เราจะไม่รอ!!!
หากคุณถูกเรียกให้เข้าแข่งขันและไม่มาภายใน 5 นาที หุ่นยนต์ของคุณจะถูกตัดสิทธิ์!!!
M. แต่ละทีมจะมีผู้ควบคุม (Operator) 1 คน และผู้ช่วย 1 คน เท่านั้น ผู้ควบคุมและผู้ช่วยเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในพื้นที่รอหรือพื้นที่แข่งขัน ส่วนสมาชิกทีมที่เหลือต้องอยู่ในห้องพักหรือชมการแข่งขันจากที่นั่งผู้ชม สำหรับผู้ควบคุมและผู้ช่วย จำเป็นต้องสวมถุงมือและแว่นตาป้องกันตลอดเวลาที่อยู่ในพื้นที่แข่งขัน อุปกรณ์ป้องกันเหล่านี้ต้องสวมจนกว่าสนามแข่งขันจะปิด กรรมการจะตรวจสอบอุปกรณ์ป้องกันระหว่างการตรวจสอบความปลอดภัย (Homologation)
N. การตรวจสอบความปลอดภัย (Homologation) จะดำเนินการทุกครั้งสำหรับหุ่นยนต์ที่กำลังจะเริ่มแข่งขัน หุ่นยนต์จะต้องอยู่ในพื้นที่รอการแข่งขันในพื้นที่แข่งขัน ทีมจะสามารถออกจากพื้นที่นี้ได้เฉพาะเมื่อได้รับอนุญาตจากกรรมการเท่านั้น
O. ทุกทีมจะต้องอยู่ในพื้นที่จัดเตรียมไว้ เจ้าหน้าที่การแข่งขันจะเรียกทีมเมื่อถึงเวลาที่ต้องไปยังพื้นที่รอ ซึ่งอยู่ใกล้กับพื้นที่แข่งขัน
6. การตรวจสอบความปลอดภัย (Homologation)
แต่ละทีมจะต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบความปลอดภัยเพื่อให้สามารถเข้าร่วมการแข่งขันด้วยหุ่นยนต์ของตนได้
ในระหว่างการตรวจสอบ ให้แสดงหุ่นยนต์ที่สมบูรณ์ (รวมถึงแบตเตอรี่และตัวส่งสัญญาณวิทยุ) เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้
ขั้นตอนการตรวจสอบความปลอดภัย:
ก่อนเริ่มการแข่งขัน
A. ตรวจสอบว่ามีหมายเลขทีมอยู่บนตัวหุ่นยนต์ด้านนอกหรือไม่
B. ถ่ายภาพหุ่นยนต์ทุกตัว โดยหมายเลขต้องมองเห็นได้ชัดเจน
C. ชั่งน้ำหนักหุ่นยนต์ด้วยเครื่องชั่งดิจิทัล น้ำหนักสูงสุดต้องไม่เกิน 500 กรัม
D. ตรวจสอบการทำงานของระบบควบคุมระยะไกล
E. กรรมการอาจถามเกี่ยวกับคุณสมบัติทั้งหมดของหุ่นยนต์เพื่อประเมินความปลอดภัย
ก่อนแต่ละแมตช์
A. ชั่งน้ำหนักหุ่นยนต์อีกครั้งด้วยเครื่องชั่งดิจิทัล น้ำหนักสูงสุดต้องไม่เกิน 500 กรัม
B. ตรวจสอบว่ามีหมายเลขทีมอยู่บนตัวหุ่นยนต์ด้านนอกหรือไม่
C. ตรวจสอบว่าผู้ควบคุมและผู้ช่วยมีอุปกรณ์ป้องกันที่จำเป็นหรือไม่
D. ตรวจสอบการทำงานของระบบควบคุมระยะไกล
หลังจากการตรวจสอบ ทีมที่ติดอันดับ 4 อันดับแรกจะอยู่ในพื้นที่รอใกล้พื้นที่แข่งขัน ส่วนทีมที่เหลือจะกลับไปยังที่จัดไว้ให้
7. การเริ่มต้น หยุด ดำเนินต่อ และสิ้นสุดการแข่งขัน
7.1. การวางหุ่นยนต์
A. การเปิดใช้งานหุ่นยนต์ จะปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้:
• a. วางหุ่นยนต์ในพื้นที่ต่อสู้ โดยให้หุ่นยนต์หันหน้าและอาวุธเข้าด้านใน
• b. ถอดอุปกรณ์ป้องกันอาวุธออก (ถ้ามี)
• c. เปิดตัวส่งสัญญาณหรือเครื่องควบคุมวิทยุ
• d. เชื่อมต่อพลังงานของหุ่นยนต์
• e. ถอดหมุดหรือตัวล็อกของอาวุธออก
• f. ปิดพื้นที่ต่อสู้
• g. ห้ามเคลื่อนไหวหรือทดสอบหุ่นยนต์ในขณะที่พื้นที่ต่อสู้ยังเปิดอยู่
7.2. การเริ่มต้นการแข่งขัน
A. การทดสอบการเคลื่อนไหวและเริ่มต้นการต่อสู้
• a. เมื่อพื้นที่ต่อสู้ปิดลง คุณมีเวลา 30 วินาทีในการทดสอบการทำงานของอาวุธและการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์ในขณะที่หุ่นยนต์อยู่ในตำแหน่งเริ่มต้น
• b. กรรมการจะถามผู้เข้าร่วมว่าพร้อมหรือไม่ และเมื่อทั้งสองฝ่ายยืนยันว่าพร้อม การแข่งขันจะเริ่มต้น
B. กรรมการจะเริ่มต้นการแข่งขันด้วยการให้สัญญาณเสียง เมื่อสัญญาณเริ่มต้นดังขึ้น ผู้ควบคุมสามารถเริ่มเคลื่อนที่หุ่นยนต์ได้ทันที
7.3. การหยุดและดำเนินต่อ
การสิ้นสุดการต่อสู้
• a. เมื่อกรรมการสั่งจบการแข่งขัน หุ่นยนต์จะต้องหยุดการทำงานและปิดพลังงานอาวุธ จากนั้นนำหุ่นยนต์กลับไปยังตำแหน่งเริ่มต้น
• b. กรรมการอาจขอให้ผู้เข้าแข่งขันสาธิตการทำงานของการเคลื่อนไหวและ/หรืออาวุธของหุ่นยนต์
• c. การสาธิตการเคลื่อนไหวสามารถทำได้ระหว่างที่นำหุ่นยนต์กลับไปยังตำแหน่งเริ่มต้น
• d. การสาธิตอาวุธสามารถทำได้โดยการเปิดใช้งานอาวุธชั่วคราวในระหว่างที่หุ่นยนต์กลับไปยังตำแหน่งเริ่มต้น แต่ไม่ควรเปิดใช้งานที่ความเร็วสูงสุด
7.4. การสิ้นสุด
การปิดการทำงานของหุ่นยนต์
• a. ปิดการทำงานของอาวุธ
• b. ขับเคลื่อนหุ่นยนต์ (เท่าที่ทำได้) โดยให้หุ่นยนต์หันหน้าและอาวุธเข้าด้านในของพื้นที่ต่อสู้
• c. เปิดพื้นที่ต่อสู้ ห้ามเคลื่อนไหวหุ่นยนต์หลังจากนี้
• d. ตัดการเชื่อมต่อพลังงานของหุ่นยนต์
• e. ปิดตัวส่งสัญญาณหรือเครื่องควบคุมวิทยุ
• f. ติดตั้งหมุดหรือตัวล็อกของอาวุธ
• g. ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันอาวุธ (ถ้ามี)
• h. เมื่อหุ่นยนต์ทั้งสองหยุดการทำงานแล้ว ให้นำหุ่นยนต์ออกจากพื้นที่ต่อสู้
7.5. การปิดการทำงานฉุกเฉิน
ในกรณีฉุกเฉิน (เช่น หุ่นยนต์เกิดไฟไหม้) จะไม่ใช้กระบวนการปิดการทำงานปกติ ด้านล่างนี้คือคำอธิบายกระบวนการฉุกเฉินสำหรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น:
A. หนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งหุ่นยนต์สูญเสียการควบคุม
• a. ผู้ควบคุมต้องปิดตัวส่งสัญญาณของพวกเขาเพื่อพยายามเปิดใช้งานระบบความปลอดภัยหรือ failsafe หากสามารถควบคุมหุ่นยนต์ได้อีกครั้ง การแข่งขันจะดำเนินต่อไป
• b. หากพฤติกรรมที่ไม่สามารถควบคุมยังคงดำเนินต่อ หุ่นยนต์จะได้รับอนุญาตให้ใช้พลังงานแบตเตอรี่จนหมดจนกว่าจะสามารถจัดการได้อย่างปลอดภัย
• c. หากหุ่นยนต์ที่สูญเสียการควบคุมยังทำงานได้ ไม่มีอาวุธที่ใช้งาน และทุกฝ่ายเห็นพ้องกัน ฝ่ายตรงข้ามอาจพยายามยก พลิก หรือทำให้หุ่นยนต์ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เพื่อให้สามารถปิดการทำงานได้อย่างปลอดภัย
B. หนึ่งหุ่นยนต์เกิดไฟไหม้ และอีกตัวเคลื่อนไหวได้
• a. หุ่นยนต์ที่เคลื่อนไหวได้ต้องเคลื่อนที่ให้ห่างจากหุ่นยนต์ที่ไฟไหม้และทางเข้าพื้นที่ต่อสู้ให้มากที่สุด
• b. ปิดพลังงานของอาวุธทั้งหมดและชี้ไปทางที่ไม่ใช่ทางเข้าพื้นที่ต่อสู้
• c. เมื่อเปิดพื้นที่แล้วและไม่ถือว่าอันตราย ไฟจะถูกดับ
• d. เมื่อไฟดับลง ผู้ควบคุมหุ่นยนต์ที่เคลื่อนไหวได้สามารถนำหุ่นยนต์ออกด้วยกระบวนการปิดการทำงานปกติ
C. หนึ่งหุ่นยนต์เกิดไฟไหม้ และอีกตัวหยุดนิ่ง
• a. ผู้ควบคุมหุ่นยนต์ที่หยุดนิ่งต้องปิดพลังงานของอาวุธ
• b. เมื่อเปิดพื้นที่แล้วและไม่ถือว่าอันตราย ไฟจะถูกดับ
• c. เมื่อไฟดับลง ผู้ควบคุมหุ่นยนต์ที่หยุดนิ่งสามารถนำหุ่นยนต์ออกด้วยกระบวนการปิดการทำงานปกติ
D. ทั้งสองหุ่นยนต์เกิดไฟไหม้
• a. หุ่นยนต์ทั้งสองจะถูกย้ายให้ห่างจากกันและจากทางเข้าพื้นที่ต่อสู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
• b. อาวุธทั้งหมดจะถูกปิดพลังงานและชี้ไปทางที่ไม่ใช่ทางเข้าพื้นที่ต่อสู้
• c. เมื่อเปิดพื้นที่แล้วและไม่ถือว่าอันตราย ไฟจะถูกดับ
8. เวลาในการแข่งขัน
8.1. ระยะเวลา
การแข่งขันแต่ละแมตช์จะใช้เวลาทั้งหมด 3 นาที โดยเริ่มต้นและสิ้นสุดตามคำสั่งของกรรมการ
9. การให้คะแนน
หุ่นยนต์จะถูกตัดสินให้เป็นผู้ชนะเมื่อ:
A. หากหุ่นยนต์ตัวหนึ่งติดอยู่บนผนังป้องกันของสนามหรือระหว่างผนังด้านในและด้านนอก จะถูกตัดสินว่าแพ้แบบ KO และต้องปิดการทำงานของอาวุธ
B. หากหุ่นยนต์ฝ่ายตรงข้ามได้รับความเสียหายจนไม่สามารถแข่งขันต่อได้ และตัวแทนทีมประกาศยอมแพ้
C. หากมีการตัดสินว่าแพ้แบบ KO
D. หากไม่มีการตัดสิน KO หลังจากครบ 3 นาที กรรมการจะประกาศผู้ชนะ
เมื่อมีการตัดสินของกรรมการเพื่อตัดสินผู้ชนะ จะพิจารณาปัจจัยดังต่อไปนี้:
a. ความสามารถทางเทคนิคในการเคลื่อนไหวและการทำงานของหุ่นยนต์
b. ทัศนคติของผู้เล่นระหว่างการแข่งขัน
9.1. การซ่อมแซม การปรับแต่ง และการหยุดการแข่งขันที่ไม่ได้คาดการณ์
ตั้งแต่ช่วงที่หุ่นยนต์ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัย (Homologation) และอยู่ในพื้นที่รอจนกระทั่งการแข่งขันสิ้นสุด ห้ามทำการเปลี่ยนแปลงใด ๆ กับหุ่นยนต์ และไม่อนุญาตให้หยุดการแข่งขันด้วยเหตุผลใด ๆ ต่อไปนี้:
• ห้ามซ่อมแซมหุ่นยนต์ระหว่างการแข่งขัน
• ห้ามเปลี่ยนหรือชาร์จแบตเตอรี่ระหว่างการแข่งขัน
• หากหุ่นยนต์ได้รับความเสียหาย การแข่งขันจะไม่หยุด และหุ่นยนต์ต้องแข่งขันต่อจนกว่าจะจบแมตช์
A. หุ่นยนต์ต้องเริ่มต้นและสิ้นสุดการแข่งขันโดยไม่มีการปรับแต่งใด ๆ และไม่สามารถออกจากพื้นที่แข่งขันได้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ๆ
B. การเปลี่ยนหรือชาร์จแบตเตอรี่ การซ่อมแซม หรือการเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสียหาย สามารถทำได้หลังการแข่งขันสิ้นสุดและก่อนการแข่งขันครั้งถัดไป
C. หากหุ่นยนต์เสียหายระหว่างการแข่งขันและไม่สามารถแข่งขันต่อได้ หุ่นยนต์ฝ่ายตรงข้ามจะเป็นผู้ชนะในแมตช์นั้น โดยไม่อนุญาตให้ทำการซ่อมแซมหุ่นยนต์ในระหว่างแมตช์
9.2. กรรมการ
A. จะมีบุคคลหนึ่งที่ได้รับการระบุว่าเป็น “กรรมการหลัก” ซึ่งมีหน้าที่สื่อสารการตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับการดำเนินการแข่งขันและการตีความกฎระเบียบ
B. บุคคลอื่นอาจได้รับการระบุว่าเป็น “กรรมการผู้ช่วย” ซึ่งจะช่วยเหลือกรรมการหลักในงานที่ได้รับมอบหมาย
C. ผู้เข้าร่วมจะต้องติดต่อกรรมการหลักเสมอสำหรับข้อร้องเรียนหรือการขอคำชี้แจงกฎ หากกรรมการหลักเห็นว่าเหมาะสม เขาอาจส่งผู้เข้าร่วมไปยังกรรมการผู้ช่วย
D. การตัดสินใจขั้นสุดท้ายจะกระทำโดยกรรมการหลักเสมอ
10. การผิดกติกา
10.1. การผิดกติกา
ผู้เล่นที่กระทำการตามที่ระบุไว้ในข้อ 3.2, 10.2, 10.3 หรือ 10.4 จะถือว่าละเมิดกฎเหล่านี้
10.2. การดูถูก
ผู้เล่นที่พูดจาดูถูกฝ่ายตรงข้ามหรือกรรมการ หรือใช้หุ่นยนต์ที่มีอุปกรณ์เสียงเพื่อพูดจาดูถูก หรือเขียนคำพูดดูถูกบนตัวหุ่นยนต์ หรือกระทำการดูถูกในลักษณะใด ๆ จะถือว่าละเมิดกฎ
10.3. อุปกรณ์ป้องกันและพื้นที่ปลอดภัย
ถือเป็นความผิดร้ายแรงในกฎระเบียบเมื่อ:
A. ผู้ควบคุมหรือผู้ช่วยไม่ได้สวมอุปกรณ์ป้องกันระหว่างการแข่งขัน
B. ผู้ควบคุมหรือผู้ช่วยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของกรรมการ
10.4. การละเมิดกฎเล็กน้อย
การละเมิดกฎเล็กน้อยจะได้รับโทษเป็นคำเตือน และเกิดขึ้นเมื่อ:
A. การกระทำที่ไม่เป็นไปตามกีฬาสปิริต เช่น:
• a. การสัมผัสหุ่นยนต์หลังการแข่งขันจบ
• b. การรบกวนสมาธิของผู้ควบคุมหุ่นยนต์ฝ่ายตรงข้าม
• d. การเคลื่อนไหวก่อนสัญญาณของกรรมการ
B. กระทำดังต่อไปนี้:
• a. ขอหยุดการแข่งขันโดยไม่มีเหตุผลที่เหมาะสม
• b. ใช้เวลาเกิน 30 วินาทีในการตรวจสอบอาวุธ หากไม่ได้รับการต่อเวลาจากกรรมการ
• c. กระทำใด ๆ ที่ขัดต่อจิตวิญญาณของการแข่งขันที่ยุติธรรม
• d. ผู้ควบคุมหรือผู้ช่วยออกจากพื้นที่รอโดยไม่แจ้งเจ้าหน้าที่การแข่งขันหรือกรรมการ
C. การกระทำที่ไม่เหมาะสมครั้งแรกจะได้รับการเตือน
D. หากเกิดครั้งที่สอง ผู้กระทำผิดจะถูกตัดสินแพ้ทันที
E. หากมีเจตนาชัดเจนที่จะกระทำการที่ไม่เป็นไปตามสปิริตของนักกีฬา ผู้ควบคุมหุ่นยนต์จะถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขันทั้งหมด
11. บทลงโทษ
11.1. การลงโทษ
A. ผู้เล่นที่ละเมิดกฎตามที่ระบุไว้ในข้อ 3.2, 10.2, 10.3 และ 10.4 จะถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขัน
B. การละเมิดตามข้อ 10.4 จะถูกสะสม
C. การละเมิดในข้อ 10.4 จะถูกสะสมภายในการแข่งขันหนึ่งแมตช์
12. การยื่นคำร้องคัดค้าน
12.1. การยื่นคำร้องคัดค้าน
A. ไม่อนุญาตให้ยื่นคำร้องคัดค้านการตัดสินของกรรมการ
B. ผู้ควบคุมของทีมสามารถยื่นคำร้องคัดค้านต่อคณะกรรมการได้ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้กฎระเบียบ และต้องดำเนินการก่อนการแข่งขันสิ้นสุด หากไม่มีคณะกรรมการอยู่ในพื้นที่ ผู้ควบคุมสามารถยื่นคำร้องต่อกรรมการได้ก่อนการแข่งขันสิ้นสุด
C. ผู้เล่นจะไม่สามารถสัมผัสหรือยกหุ่นยนต์ออกจากสนามได้หลังจากการแข่งขันสิ้นสุด จนกว่ากรรมการจะให้สัญญาณ หากผู้เล่นสัมผัสหรือยกหุ่นยนต์ออกก่อนที่กรรมการจะให้สัญญาณ จะไม่สามารถยื่นคำร้องคัดค้านใด ๆ ได้
13. ความยืดหยุ่นของกฎระเบียบ
ตราบใดที่แนวคิดและหลักการพื้นฐานของกฎระเบียบยังคงถูกปฏิบัติตาม กฎเหล่านี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามจำนวนผู้เล่นและเนื้อหาของการแข่งขัน การแก้ไขหรือยกเลิกกฎระเบียบสามารถกระทำได้โดยผู้จัดงานท้องถิ่น โดยจะต้องเผยแพร่ก่อนเริ่มงานและต้องปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งงาน
14. ความรับผิดชอบ
A. ทีมที่เข้าร่วมมีหน้าที่รับผิดชอบต่อความปลอดภัยของตนเอง รวมถึงความปลอดภัยของหุ่นยนต์ และต้องรับผิดชอบต่ออุบัติเหตุใด ๆ ที่เกิดจากสมาชิกในทีมหรือหุ่นยนต์ของพวกเขา
B. บริษัท เมคเกอร์โรโบติกส์ จำกัด และทีมผู้จัดงานจะไม่รับผิดชอบหรือรับผิดต่อเหตุการณ์และ/หรืออุบัติเหตุใด ๆ ที่เกิดจากทีมที่เข้าร่วมแข่งขันหรืออุปกรณ์ของพวกเขา
ภาคผนวก 1
อุปกรณ์ป้องกัน
1. แว่นตาป้องกัน (Protective eyewear):
แว่นตาที่มีการป้องกันด้านข้างและด้านหน้า เพื่อป้องกันแรงกระแทกทางกลระดับเบาจากเศษหรืออนุภาคที่ถูกขว้างด้วยความเร็วต่ำ แว่นตาชนิดนี้สามารถสวมทับแว่นสายตาได้ และต้องมีเลนส์โปร่งแสงที่ไม่ส่งผลต่อการมองเห็น
2. ถุงมือ (Gloves):
ถุงมือที่สามารถป้องกันแรงกระแทกทางกล ความร้อน เปลวไฟ ความชื้น ความเย็น และของเสียที่เป็นพิษได้
สิ่งที่ไม่ถือว่าเป็นอุปกรณ์ป้องกัน:
• แว่นกันแดด
• ถุงมือแพทย์แบบลาเท็กซ์
• ถุงมือผ้าธรรมดา
• ถุงมือสำหรับเล่นสกี